5 สาเหตุ สูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วแสบคอ พร้อมวิธีแก้ไขง่าย ๆ
บุหรี่ไฟฟ้า หรือ พอตไฟฟ้า สูบแล้วหลายคนอาจเคยเจออาการแทงคอ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วแสบคอ เกืดจากอะไร มารู้สาเหตุและวิธีการใช้งานให้ปลอดภัย ไร้อาการแสบคอกัน
บุหรี่ไฟฟ้า หรือ พอต เป็นที่ในนิยมมากขึ้นในหมู่นักสูบ เนื่องจากมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ใช้งานง่าย แถมยังมีดีไซน์และรสชาติให้เลือกหลากหลาย ไม่จำเจ ทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นไอเทมที่เข้ามาทดแทนการสูบบุหรี่มวนได้ดี แต่หลายครั้ง เมื่อสูบพอตไฟฟ้าเหล่านี้แล้ว มักรู้สึกแสบคอ ซึ่งอาการนี้เกิดขึ้นได้กับบุหรี่ไฟฟ้าทุกประเภท ถ้าหากเราทนใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่สูบแล้วแสบคอ เจ็บคอ ไปเรื่อย ๆ ก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้นมาหาสาเหตุ สูบบุหรี่ไฟฟ้า แสบคอ เกิดจากอะไร ? รวมถึงวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการเหล่านี้กันดีกว่า
สาเหตุของอาการแสบคอเมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้า
อาการแสบคอ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า พอตไฟฟ้า เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ดังนี้
- ความเข้มข้นของนิโคตินสูงเกินไป
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นของนิโคตินอยู่ในระดับสูง อาจทำให้ผู้ใช้งานสูบแล้วรู้สึกเจ็บคอ แทงคอได้ เช่น ในน้ำยาซอลนิคที่มีระดับนิโคตินเกิน 50 mg. หรือในน้ำยาฟรีเบสที่มีระดับความเข้มข้นของนิโคตินเกิน 12 mg. ซึ่งในน้ำยาฟรีเบสที่มีปริมาณนิโคตินสูง ๆ ก็จะทำให้ยิ่งแสบคอมากกว่าน้ำยาซอลนิค เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของกรด Benzonic Acid ที่ช่วยให้สูบนุ่มนวล ลดอาการแทงคอ หรือ Throat Hit ด้วย
- คุณภาพของนิโคติน
น้ำยาจากฝั่งอเมริกาจะมีคุณภาพของนิโคตินที่ค่อนข้างดีกว่า ทำให้สูบแล้วรู้สึกนุ่มนวล ไม่ค่อยแทงคอ หากใช้น้ำยาที่ไม่ได้มาตรฐาน เลือกใช้นิโคตินเกรดไม่ดี ก็จะยิ่งทำให้แสบคอได้ง่าย
- ใช้กำลังไฟมากเกินไป
หากมีการใช้งานคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าด้วยกำลังการจ่ายวัตต์ที่ไม่สัมพันธ์กัน อาจทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไวเกินไป การดูดซึมตัวของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไหลเวียนไม่ทัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาใหญ่ นั่นก็คือการเกิดอาการคอยล์ไหม้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ระคายเคืองคอขณะสูบนั่นเอง
- สูบบุหรี่ไฟฟ้าลากยาวต่อเนื่องเป็นเวลานาน
เมื่อเราสูบหรือใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าในระยะเวลาที่นานและติดต่อกันมากเกินไป ตัวสำลีที่อยู่ภายในคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าก็จะดูดซับน้ำยาเข้าไปหล่อเลี้ยงได้ไม่ทัน ซึ่งอาจจะนำไปสู่ปัญหาคอยล์ไหม้ เมื่อคอยล์ไหม้แล้ว จึงทำให้สูบแล้วจะรู้สึกระคายเคืองคอตามมา
- ภาวะขาดน้ำหรือคอแห้งขึ้นเมื่อสูบพอต
กลีเซอรีนจากพืช (VG) และโพรพิลีนไกลคอล (PG) ที่ใช้ในน้ำยาหัวพอต เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ระบบพอตพกพา (Pod Systems) นั่นหมายความว่า หัวพอตนั้นมีฤทธิ์กักเก็บความชื้น เมื่อเราสูบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจากหัวพอตก็อาจส่งผลให้เกิดอาการขาดน้ำ ทำให้แสบคอขณะสูบหรือไอมากขึ้น
ข้อควรระมัดระวังในการสูบบุหรี่ไฟฟ้า สูบยังไงไม่ให้แสบคอ
เมื่อทราบสาเหตุของอาการแสบคอ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันไปแล้ว ถ้าไม่อยากทนกับปัญหานี้ เรามีวิธีง่าย ๆ กับการใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าไม่ให้แสบคอมาบอก
- ใช้กำลังไฟที่เหมาะสมสำหรับคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าและตัวผู้ใช้งานเอง ขอแนะนำว่าให้ลองปรับกำลังไฟให้ต่ำลง หรือเลือกใช้คอยล์ที่รับกำลังไฟได้สูง จะช่วยป้องกันการใช้กำลังไฟเกิน จนคอยล์ไหม้ได้
- อย่ารีบใช้งานโดยไม่รอให้ไส้คอยล์ดูดซับน้ำยาได้อย่างเต็มที่ก่อน โดยเวลาเปลี่ยนพอตใหม่ ควรเตรียมหัวคอยล์ให้พร้อมสำหรับการใช้งานครั้งแรก ปล่อยให้ไส้ที่เป็นตัวดูดซับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอิ่มตัวก่อน ประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าซึมเข้าไปที่สำลี เพียงเท่านี้ ก็จะสามารถใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างไร้ปัญหา
- ปรับวิธีการสูบ พยายามไม่สูบแบบลากยาว เพราะจะทำให้คอยล์บุหรี่่ไฟฟ้าจะร้อนจนเกินลิมิต และเกิดอาการไหม้ ตามมาด้วยแทงคอได้
- ควรเริ่มจากการใช้งานน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีความเข้มข้นของนิโคตินอยู่ในระดับต่ำก่อน ทำให้เมื่อสูบ แล้วจะไม่รู้สึกแทงคอ หรือแสบคอ จากนั้นอาจค่อย ๆ เพิ่มระดับนิดคตินขึ้นในภายหลัง หากคุ้นชินแล้ว
- สำหรับการสูบไอระเหยของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามากเกินไป อาจทำให้เกิดการสำลักควันได้ การพ่นควันให้ช้าลง และพ่นควันอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ลดอาการแสบคอได้
- การสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้รู้สึกคอแห้งได้ การจิบน้ำบ่อย ๆ จะทำให้คอและปอดของผู้ใช้งานชุ่มชื้นยิ่งขึ้น ทำให้เมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยลดอาการแสบคอ ระคายเคืองคอได้
สรุป
อาการแสบคอ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า พอตไฟฟ้า ไม่ว่าจะระบบไหนก็ตาม อาจเกิดขึ้นหลายสาเหตุ ทั้งจากการใช้งาน การเลือกน้ำยาที่มีระดับความเข้มข้นสูงเกินไป พฤติกรรมการสูบลากยาว ตลอดจนคุณภาพของน้ำยา ดังนั้นถ้าไม่อยากให้เกิดอันตรายจากอาการแทงคอ เราควรหาสาเหตุและแก้ไขด้วยการใช้งานอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพและร่างกายของเราเอง